สาหร่ายคอมบุ กับ วากาเมะ นั้นเป็นสาหร่ายที่สามารถทานได้ทั้ง 2 ชนิด ซึ่งมักใช้เป็นวัตถุดิบในอาหารประเภทต่างๆ แม้ว่าคอมบุ และวากาเมะจะมีความคล้ายคลึงกันอยู่บ้าง แต่ก็มีความแตกต่างกันที่ชัดเจนเลยค่ะ และบทความนี้เราก็ได้รวบรวมความแตกต่างมาฝากทุกคนกันด้วยค่ะ
สารบัญ
ลักษณะของสาหร่ายคอมบุ กับ วากาเมะ

ความแตกต่างที่เห็นได้อย่างชัดเจนระหว่างสาหร่ายคอมบุ กับวากาเมะ หากสังเกตจะเห็นได้ว่าลักษณะภายนอกของสาหร่ายคอมบุ (Kombu) จะมีรูปร่างแบน ยาว ผิวหยาบ มีตั้งแต่สีน้ำตาลเข้มไปจนถึงน้ำตาลอมเขียว มีคราบสีขาวบนสาหร่าย ซึ่งเป็นคราบของเกลือจากธรรมชาติ

ส่วนสาหร่ายวากาเมะ (Wakame) นั้นมีใบยาวสีเขียวเข้ม หรือเขียวอมน้ำตาล มีรอยย่นเล็กน้อยตรงใบ และเนื้อจะละเอียด โดยอีกชื่อเรียกหนึ่งคือ “ผักกาดทะเล” เป็นสาหร่ายที่พบได้ในทวีปเอเชีย โดยเฉพาะในทะเลญี่ปุ่นค่ะ

รสชาติ และการนำมาใช้ในการทำอาหาร

สาหร่ายคอมบุนั้นมีรสชาติที่เข้มข้นมาก เป็นส่วนประกอบหลักที่มักใช้เพื่อเพิ่มรสชาติในน้ำซุปดาชิ น้ำสต๊อกเป็นส่วนใหญ่ คอมบุสามารถเปรียบได้เหมือนผงชูรสธรรมชาติเลยก็ว่าได้ เพราะสาหร่ายคอมบุมีรสชาติที่กลมกล่อม ทำให้อาหารที่ปรุงออกมานั้นมีรสชาติเข้มข้น และอร่อยมากค่ะ
สาหร่ายวากาเมะจะมีรสชาติที่อ่อนกว่า ตัวใบอ่อนมีรสหวานเล็กน้อย และเนื้อลื่นเมื่อสุก และเมื่อทานจะมีความกรุบๆ เพิ่มรสชาติอูมามิ(อร่อย) นิยมนำใส่กินคู่กับซุป เป็นเอกลักษณ์ให้กับอาหารเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ก่อนใช้คอมบุให้เช็ดทำความสะอาดก่อน ไม่ควรนำไปล้างน้ำนะคะ เพราะรสชาติจะไหลออกไปด้วย เราจะแช่ในน้ำก่อนนำไปประกอบอาหารให้ตัวสาหร่ายนิ่ม หรือนำไปเคี่ยวในน้ำซุป และมักจะนำออกก่อนเสิร์ฟ แต่บางเมนูก็จะนำไปทานได้เช่นกันค่ะ
ในส่วนของวากาเมะ ก็จะแช่ในน้ำประมาณ 1-2 นาทีให้ตัวสาหร่ายนั้นพองตัวเต็มที่ และนุ่มขึ้นก่อนนำไปประกอบอาหารเช่นกันค่ะ แนะนำแช่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะจะขยายตัวอย่างมากเมื่อแช่น้ำ

ประโยชน์ และคุณค่าทางโภชนาการ

ประโยชน์ และคุณค่าทางโภชนาการของสาหร่ายคอมบุ กับวากาเมะนั้นต้องบอกเลยค่ะว่ามากมายจริงๆ อย่าง "คอมบุ" เป็นสาหร่ายที่มีสารอาหารหนาแน่น ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ทั้งเป็นแหล่งไอโอดีนที่ดีเยี่ยม จำเป็นต่อร่างกาย นอกจากนี้ยังมีใยอาหาร วิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระ
ส่วน "วากาเมะ" ก็มีคุณค่าทางโภชนาการสูง และมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ มีแคลอรี และไขมันต่ำ แถมอุดมไปด้วยแร่ธาตุที่จำเป็นมากมาย นอกจากนี้ยังมีวิตามิน A, C และ E รวมทั้งเส้นใยอาหาร และสารต้านอนุมูลอิสระอีกด้วยค่ะ
เมนูยอดนิยมของสาหร่ายคอมบุ และวากาเมะ

คอมบุคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะนิยมนำมาปรุงรสในน้ำซุป อย่างซุปดาชิ หรือน้ำแกง หรือนำไปเป็นส่วนผสมในซีอิ๊ว อย่างเช่น ซอสดองซีอิ๊วเกาหลี เราก็จะใส่สาหร่ายคอมบุเพื่อเพิ่มรสชาติเช่นเดียวกันค่ะ
และเมนูที่ใช้สาหร่ายวากาเมะที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือเมนู "ซุปมิโซะ" โดยเมนูนี้จะใส่วากาเมะลงในซุปพร้อมกับส่วนผสมอื่นๆ เช่น เต้าหู้ ต้นหอม และเต้าเจี้ยว เพื่อรสชาติที่อร่อยมากขึ้น
นอกจากนี้วากาเมะยังนิยมใส่ในสลัด หรือยำ หรือเครื่องเคียงต่างๆ อีกด้วย สามารถรับประทานเล่นเปล่าๆ หรือทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ หรือเสิร์ฟกับเมนูอื่นๆ ก็เข้ากันสุดๆ หรือดูเมนุเพิ่มเติมที่นี่ค่ะ
แจกฟรี ! สารพัดเมนูสาหร่ายวากาเมะ
รวมไอเดีย หลากหลายเมนูจากสาหร่ายวากาเมะ ทั้งนำไปยำ ซุป ทอด อร่อย แถมอุดมไปด้วยประโยชน์ และสารอาหารมากมายที่ดีต่อร่างกาย ตามได้ง่ายๆ ที่บ้าน
นอกเหนือจากการนำไปใช้ประกอบอาหารแล้ว สาหร่ายทั้ง 2 ชนิดนี้ยังใช้ในการผลิตเครื่องสำอาง อาหารเสริม และอาหารสัตว์ได้อีกด้วย ปริมาณแร่ธาตุสูง และประโยชน์ต่อสุขภาพทำให้เป็นที่นิยมในผลิตภัณฑ์ต่างๆ เป็นอย่างมากค่ะ
สรุป

• สาหร่ายคอมบุ กับวากาเมะ มีรสชาติ และเนื้อสัมผัสที่แตกต่างกัน และคอมบุใช้เป็นวัตถุดิบในการทำเป็นน้ำซุป ส่วนวากาเมะมักใช้เป็นวัตถุดิบในการประกอบอาหาร
• สาหร่ายคอมบุจะมีรสชาติที่เข้มข้น กล่อมกลม และมักใช้เป็นเครื่องปรุง ถือได้ว่าเป็นผงชูรสจากธรรมดาก็ว่าได้
• ในขณะที่สาหร่ายวากาเมะมีรสชาติที่นุ่มนวล และเนื้อสัมผัสที่ละเอียด มักใส่ในซุปมิโซะ หรือซุปต่างๆ และยำสาหร่ายก็อร่อยไม่แพ้กันค่ะ
• นอกจากนนี้สาหร่ายทั้ง 2 ชนิดยังอุดมไปด้วยประโยชน์ และคุณค่าทางโภชนาการที่หลากหลาย แถมอร่อยสุดๆ นำไปทำ หรือทานกับเมนูไหนก็เข้ากัน
• สามารถดูสูตรอาหารเกาหลี ไม่ว่าจะเป็นวิธีทำอาหาร และเครื่องเคียงต่างๆได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้ได้เลย
ฟรี ! สูตรอาหารเกาหลีแบบจัดเต็ม
รวมสูตรอาหารเกาหลีหลากหลายประเภท ทั้งเครื่องเคียง จานหลัก และของหวาน พร้อมเคล็ดลับการทำอาหารเกาหลีมากมาย จากเชฟมืออาชีพ

ปิยธิดา (เดียร์)
GURU มิสเตอร์เค กิมจิ หลงรักในการเขียน และการกิน ถ้าเราเหนื่อยล้า ชาบูจะเยียวยาเราเอง SEO Specialist | Blogger | Script | Graphic Designer