กิมจิต้นหอม เป็นกิมจิชนิดหนึ่งซึ่งมีวิธีทำที่ง่ายที่สุด เพราะมีขั้นตอนการเตรียมไม่มาก และด้วยกลิ่นและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของต้นหอม ทำให้มันกลายเป็นกิมจิยอดนิยมอันดับต้นๆเลยทีเดียว
ดูวิธีทำกิมจิต้นหอมแบบเป็นต้น กดคลิกที่คลิปด้านล่างได้เลยครับ
ดูวิธีทำกิมจิต้นหอมแบบหั่นท่อน กดคลิกที่คลิปด้านล่างได้เลยครับ
สนใจสั่งซื้อ ส่วนผสมสำหรับทำกิมจิต้นหอมคลิกปุ่มด้านล่างได้เลยครับ
สารบัญ
ส่วนผสม
เรียน ทำซอสกิมจิ ฟรี !
เปิดเผย 4 สูตรลับ ซึ่งเป็นพื้นฐานที่สำคัญที่สุดของการทำกิมจิสูตรการทำ ซอสทำกิมจิ 4 สูตร ทำทานได้ ทำขายดี คลิกอ่านเคล็ดลับ สูตรเงินล้านก่อนใคร
วิธีทำ
1.) นำต้นหอมประมาณ 230-250 กรัมมาตัดหัวและท้ายออก
2.)จากนั้นนำไปล้างให้สะอาดประมาณ 2 รอบ
3.) จากนั้นถ้าต้องการทำกิมจิต้นหอมแบบทั้งต้นก็นำเอาไปผึ่งให้สะเด็ดน้ำได้เลย
4.) หรือจะนำมาหั่นเป็นท่อนๆยาว 1-2 นิ้ว เพื่อให้ง่ายต่อการทานก็ได้ครับ
5.) จากนั้นใส่ซอสกิมจิลงไปในอัตราส่วน 1 : 1 ของต้นหอม หรือ 230 – 250 กรัม
6.) และสามารถใส่หัวหอมใหญ่หั่นเพิ่มลงไปอีก 40 กรัม เพื่อเพิ่มรสสัมผัสที่แตกต่างกันก็จะช่วยให้กิมจิอร่อยขึ้นได้อีกครับ
7.) จากนั้นคนส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน
8.) นำใส่กล่องที่มีฝาปิดสนิท
9.) โรยด้วยงาขาวปริมาณตามใจชอบ
10.) ปิดฝากล่องให้สนิท แล้วเก็บไว้นอกตู้เย็น 1 คืน ก็จะได้กิมจิต้นหอมไว้รับประทานแล้วครับ
กิมจิสามารถเก็บไว้ได้นานแค่ไหน สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ลิงค์ด้านล่างเลยครับ
หรือถ้าใครที่ไม่ชอบทานเปรี้ยว ก็สามารถทานได้ทันทีเลยครับ
สำหรับใครที่ทำแบบทั้งต้นไว้ ก่อนทานนำมาม้วนๆให้พอดีคำ ก็น่าทานขึ้นมากเลยครับ
กิมจิสามารถเก็บไว้ทานได้หลายวัน แต่หากไม่แน่ใจว่ากิมจิที่เก็บไว้หลายวันแล้วเสียหรือไม่สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ลิงค์ด้านล่างได้เลยครับ
เคล็ดลับความอร่อยที่สำคัญ
เคล็ดลับที่ 1 เราจะใช้ต้นหอมทั้งต้นในการทำกิมจิ ดังนั้นควรล้างต้นหอมให้สะอาดโดยเฉพาะส่วนหัว(ส่วนสีขาว) เพราะส่วนหัวของต้นหอมปกติจะอยู่ในดิน ถ้าล้างไม่ดีอาจทำให้จุลินทรีย์ที่ไม่พึงประสงค์ปนเปื้อนลงไปในระหว่างหมักกิมจิได้
เคล็ดลับที่ 2 การลอกเปลือกนอกของต้นหอมออกและแบ่งต้นหอมออกเป็นต้นเล็กๆ นอกจากจะทำให้สามารถล้างต้นหอมได้สะอาดแล้ว ยังช่วยให้ซอสกิมจิซึมเข้าไปในต้นหอมได้ดีขึ้นอีกด้วย
เคล็ดลับที่ 3 ชาวเกาหลีบางส่วนจะใส่สาลี่หรือแอปเปิ้ลปั่นละเอียดลงไปเพิ่มความหวาน ละมุน ให้กับกิมจิต้นหอมอีกด้วย เพราะกิมจิต้นหอมไม่นิยมทานตอนที่เปรี้ยวมาก
สำหรับเคล็ดลับการทำให้กิมจิมีรสชาติกลมกล่อมถูกใจสามารถอ่านเพิ่มเติมด้านล่างได้เลยครับ
เคล็ดลับที่ 4 หลังจากล้างต้นหอมแล้ว ควรผึ่งต้นหอมให้ให้สะเด็ดน้ำให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะการที่ทำกิมจิทั้งๆที่ยังมีน้ำในผักเหลือเยอะ อาจทำให้กิมจิเน่าเสียได้ง่าย
กิมจิต้นหอมในภาษาอื่น ๆ เรียกว่าอะไร?
ในภาษาเกาหลีกิมจิต้นหอม เรียกว่า 파김치 Pa-kimchi หรือคำอ่านในภาษาไทย ออกเสียงว่า (ปา-กิม-จี) ซึ่งในภาษาเกาหลี 파 แปลว่า “ต้นหอม”
และต้นหอมที่นิยมนำมาทำเป็นกิมจิในเกาหลีเรียกว่า jjokpa (쪽파) คือต้นหอมขนาดเล็กคล้ายๆกับต้นหอมไทยหรือ silpa (실파) แต่จะมีรสฉุนน้อยกว่า
สำหรับในภาษาอังกฤษต้นหอมเรียกว่า Green Onion ,Tree Onion หรือ scallion
สำหรับคำถามอื่นๆที่น่าสนใจเกี่ยวกับกิมจิ สามารถติดตามอ่านได้ที่ลิงค์ด้านล่างได้เลยครับ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับกิมจิ
กิมจิเสียเป็นยังไง มีอายุกี่วัน มีประโยชน์แค่ไหน มีโทษอย่างไร รสชาติเป็นแบบไหน เปรี้ยวกินได้ไหม เค็มไปทำยังไงดี ทุกคำถาม มีคำตอบ คลิกอ่านบทความด้านล่างได้เลยครับ
ประโยชน์ของกิมจิต้นหอม
น้ำมันหอมระเหยในต้นหอมนั้น มีส่วนช่วยบรรเทาอาการหวัดได้ นอกจากนี้ในต้นหอมยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ และมีธาตุเหล็กในปริมาณสูง เพราะในต้นหอม 100 กรัม มีปริมาณธาตุเหล็กสูงถึงครึ่งนึงของปริมาณที่ร่างกายต้องการต่อวันเลยครับ
เป็นที่ทราบกินดีอยู่แล้วว่ากิมจิเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์มากมาย จนนิตยสารสุขภาพหลายๆฉบับทั่วโลก จัดให้กิมจิเป็นสุดยอดอาหารกันเลยทีเดียว
เมื่อรวมเข้ากับสรรพคุณของต้นหอมแล้ว กิมจิต้นหอมก็กลายเป็นกิมจิที่มากด้วยประโยชน์อีกชนิดนึงสามารถอ่านประโยชน์ของกิมจิเพิ่มเติมได้ที่ลิงค์ด้านล่างได้เลยครับ
เพราะว่ากิมจิต้นหอมเป็นอาหารที่มีประโยชน์มากมายไม่ว่าจะด้านสุขภาพและด้านความงาม และยังมีวิธีทำไม่ยุ่งยาก จึงเป็นเมนูที่น่าทำไว้ทานอย่างมากครับ
สามารถติดตามอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับกิมจิแบบจัดเต็มได้ที่ลิงค์ด้านล่างเลยครับ
บทความพิเศษ
วิธีการทำกิมจิฉบับสมบูรณ์ ที่รวมทั้งการทำซอสกิมจิ 4 แบบ และ วิธีการกิมจิกว่า 10 ชนิด คำถามที่พบบ่อย และทุกๆ เรื่องที่เกี่ยวกับกิมจิ
กิมจิต้นหอมกินกับอะไรดี
นอกจะจะนิยมนำมาทานกับเนื้อย่างได้เข้ากันเป็นอย่างดีแล้ว กิมจิต้นหอมยังนิยมเอามากินกับจาจังมยอน หรือ บะหมี่แห้งซอสถั่วดำเกาหลีอีกด้วย
และเหมือนกับกิมจิชนิดอื่นๆ ที่เอามาทานกับข้าวสวยร้อนๆ ได้เลย กิมจิต้นหอมยังนิยมยังมาทำเป็นกับแกล้ม ทานคู่กับโซจู (สุรากลั่นเกาหลี) ก็อร่อยมากๆเลยครับ
และสามารถดูไอเดียเอากิมจิไปทำเป็นอาหารเพิ่มเติม ได้ที่ลิงค์ด้านล่างเลยครับ
การจัดเก็บกิมจิต้นหอม
กิมจิต้นหอมเป็นกิมจิที่ค่อนข้างที่จะมีกลิ่นแรง เพราะน้ำมันหอมระเหยในต้นหอมจะถูกปล่อยออกมาเรื่อยๆในขณะที่หมัก หากยิ่งหมักไว้หลายวันกิมจิต้นหอมยิ่งมีกลิ่นรุนแรงมากขึ้น
ทำให้บางคนอาจจะรู้สึกว่า กิมจิต้นหอมที่ผ่านการหมักมาหลายวัน มีกลิ่นแรงจนไม่เหมาะจะนำมาทานเป็นเครื่องเคียงอีกแล้ว แต่อย่าเพิ่งเอาไปทิ้งนะครับ
เพราะในต้นหอม มีสารชนิดหนึ่งที่เรียกว่า กลูตาเมต ตามธรรมชาติ ที่ทำให้อาหารมีรสชาติกลมกล่อมขึ้น ดังนั้น เอากิมจิต้นหอมไปใส่ในอาหารอย่างอื่น เช่น ซุปกิมจิ หมูผัดกิมจิ นอกจากจะช่วยให้กลิ่นของกิมจิต้นหอมเบาลง ยังช่วยให้อาหารของเราอร่อยขึ้นได้ด้วยครับ
แต่สำหรับใครที่ยังชอบทานกิมจิต้นหอมเปล่าๆ เป็นเครื่องเคียง ผมก็แนะนำให้เก็บกิมจิต้นหอมไว้ในช่องฟรีซได้เลยครับ วิธีนี้จะช่วยให้กิมจิเปรี้ยวช้าที่สุด ทำให้สามารถเก็บกิมจิต้นหอมไว้ทานไว้ได้เป็นเดือนเลยครับ
วิธีการทำกิมจิ โดยใช้ซอสกิมจิ
เปิดเผยเคล็ดการทำกิมจิกว่า 15 ชนิด ทำทานได้ ทำขายดี คลิกอ่านก่อนใคร
สรุป
• กิมจิต้นหอมเป็นกิมจิที่ทำง่ายที่สุด เพราะมีขั้นตอนการเตรียมที่น้อยกว่ากิมจิชนิดอื่นๆ
• สามารถทำรับประทานได้ทั้งแบบทั้งต้น และหั่นท่อน
• ก่อนจะนำต้นหอมมาหมักเป็นกิมจิ ควรล้างให้สะอาด เพราะต้นหอมเป็นผักที่มักมีดินติดมาบริเวณโคนต้น อาจทำให้จุลินทรีย์ที่ไม่พึงประสงค์เติบโตในช่วงที่หมักได้
• หลังจากล้างต้นหอมให้สะอาดแล้วควรผึ่งให้แห้งที่สุด ไม่อย่างนั้นอาจทำให้กิมจิเสียเร็วขึ้น
• กิมจิต้นหอมที่หมักนานจะมีกลิ่นแรง ไม่จำเป็นต้องทิ้ง แต่สามารถนำไปปรุงเป็นอาหารได้
• ถ้าไม่ต้องการให้กิมจิต้นหอมเปรี้ยวเร็ว และมีกลิ่นแรง แนะนำให้เก็บในช่องฟรีซ
• สำหรับซอสกิมจิยังสามารถเอามาทำกิมจิได้อีกหลายชนิด สามารถอ่านวิธีทำกิมจิชนิดอื่นๆได้ที่ลิงค์ด้านล่างได้เลยครับ
Chef OJ
ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการทำอาหาร ประสบการณ์การเป็นเชฟมืออาชีพมากกว่า 10 ปีในประเทศออสเตรเลีย Chef | Recipes | Cooking